CTRL+Future
2 เคล็ดวิชาสร้าง Personal Branding แบบไร้กระบวนท่าของ ‘โจ้ ธนา’
1 ก.ย. 2568
The Futurist
ช่วงหลังมานี้ใครๆ ก็พูดถึงเรื่อง Personal Branding ต่อให้คุณเป็นคนธรรมดาๆ คนหนึ่ง ไม่ใช่นักแสดง อินฟลูเอนเซอร์ หรือนักธุรกิจ Personal Branding ก็ยังคงสำคัญ เพราะมันคือวิธีที่คุณนำเสนอและเล่าเรื่องราวของตัวเองให้คนอื่นฟัง ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการ เพื่อนร่วมงาน หรือกระทั่งคนที่คุณแอบชอบ
และเมื่อพูดถึง Personal Brand ที่น่าจดจำ ชื่อของ ‘โจ้–ธนา เธียรอัจฉริยะ’ ก็ติดโผอยู่ในลำดับต้นๆ เพราะต่อให้คนไม่ได้อยู่ในแวดวงธุรกิจ ก็ย่อมเคยได้ยินสมญานามของเขาคนนี้ เช่นว่า
เด็กปลายโต๊ะผู้ยกมืออาสาทำงานที่ไม่เคยทำ
คนกลางๆ ผู้มาพร้อมเคล็ดลับ ทำสำเร็จ ทำดี ทำเกิน
Giver ผู้ขอเอาตัวไปอยู่ท่ามกลาง Giver
แต่เมื่อเราหยิบยกประเด็นนี้ไปคุยกับโจ้ คำตอบที่ได้นั้นทั้งน่าเซอร์ไพรส์และไม่น่าเซอร์ไพรส์ในเวลาเดียวกัน “ผมไม่ได้ตั้งใจทำ Personal Branding นะ ผมว่ามันน่าจะมาจากการเล่าเรื่องของผมมากกว่า ผมอาจจะเล่าเรื่องได้ดี" โจ้ว่า
กระนั้นผู้บริหารมากประสบการณ์คนนี้ก็ช่วยวิเคราะห์และแจกแจงให้เราฟังว่า มีอะไรบ้างที่เขาคิดว่าจะนำไปสู่ Personal Branding ที่ดี
1. จงมีสิ่งที่คนอื่นไม่มี
ยุคปู่ย่าตายายเราคนรู้ภาษาอังกฤษคือคนที่โดดเด่นกว่าใคร ยุคพ่อแม่เราคนรู้อินไซต์ว่าบ้านเมืองจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรคือคนที่เจริญกว่าใคร แต่สำหรับคนยุคนี้ที่ภาษาอังกฤษต้องดี ใช้ ChatGPT โจ้บอกว่าสิ่งที่จะทำให้เราโดดเด่นได้คือ Grit หรือความสามารถที่จะอดทนและมีวินัยเพื่อเดินไปให้ถึงเป้าหมายระยะยาว
“เชฟไอซ์ (ศุภักษร จงศิริ) เจ้าของร้านศรณ์ที่ได้มิชลินสตาร์ 3 ดวง เขาฝึกเทคนิคหุงข้าวชั้นสูง คือหุงข้าวให้ขึ้นหม้อแบบเปิดมาแล้วข้าวตั้งฉาก 90 องศา เชฟไอซ์ฝึกอยู่ 5 ปีนะ แต่ปัญหาที่เชฟไอซ์เจอตอนนี้คือ เขาฝึกเด็กรุ่นใหม่ เด็กอยากหุงให้ได้ใน 3 วัน
“หรือยกตัวอย่างผมเอง เมื่อก่อนกลัวการพูด ไม่กล้าขึ้นเวทีไปบรรยาย แต่ก็ทำไปเรื่อยๆ ผมขึ้นเวทีไปสัก 200 ครั้งได้มั้งถึงจะรู้สึกว่าไม่ตื่นเต้นแล้ว กับการเขียนก็เหมือนกัน ตอนแรกก็เขียนฝืดมาก แต่ก็ค่อยๆ เขียนไป ตอนนี้เขียนไปได้ 2,000-3,000 ชิ้นแล้วมั้ง มันก็ต้องเขียนเก่ง เล่าเรื่องเก่งกว่าคนอื่นอยู่แล้ว
“ดังนั้นในยุคนี้ที่เด็กๆ มีทุกอย่างแล้ว สิ่งที่จะทำให้เขาชนะทุกคนในปฐพีเลยคือความอดทน ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ ไม่มี Quick Win ถ้าอยากทำอะไรให้ดีหรือทำให้ให้เหนือกว่าคนอื่น ก็ต้องฝึกฝนทำไปเท่านั้น”
2. จงทำมากกว่าพูด แล้วให้คนอื่นพูดแทน
หากมองในมุมการประชาสัมพันธ์หรือการทำการตลาด หลายคนอาจคิดว่าก็แค่พูดเรื่องเดิมซ้ำๆ ออกสื่อก็ทำให้คนจดจำ Personal Branding ได้แล้ว แต่โจ้เห็นต่าง ลำพังการให้สัมภาษณ์ไม่เพียงพอที่จะทำให้ Personal Branding แข็งแรง แต่การกระทำของเราต้องสอดคล้องกับสิ่งที่เราพูดด้วย และจะดีไปกว่านั้นหากเราเน้นลงมือทำ แล้วให้คนอื่นพูดแทน
“มันย้อนกลับไปเรื่องการเป็น Giver ที่ผมมักพูดถึง คนเป็น Giver ต้องรู้จักศิลปะแห่งการเสียเปรียบ ให้ไปก่อน ช่วยคนอื่นไปก่อน โดยที่ไม่หวังผลตอบแทน หรือไม่หวังว่าผลตอบแทนต้องเป็นตัวเงินเท่านั้น ถ้าสิ่งที่เราได้กลับมาคือหนึ่งใน Currency of Life เงินทอง ประสบการณ์ ความทรงจำ คำขอบคุณ สิ่งเหล่านี้จะค่อยๆ สั่งสมและประกอบร่างเป็นตัวตนของเรา
“และเมื่อเราปลูกต้นไม้ไว้แบบนี้ คนอื่นก็จะพูดถึงเราในทางที่ดี ยิ่งเราปลูกต้นไม้ไว้เยอะๆ ก็จะมีคนพูดถึงเราดีๆ ไปเรื่อยๆ สิ่งเหล่านี้มันไม่สามารถเกิดจากการตั้งใจทำ Personal Branding แบบออกไปให้สัมภาษณ์ได้”
และนี่คือเคล็ดวิชา Personal Branding แบบไร้กระบวนท่าแต่มาเองโดยธรรมชาติของโจ้ ลองเอาไปทำดูแล้วกลับมาเล่าให้เราฟังด้วยนะว่าเป็นอย่างไรบ้าง!