What it should be inside the future airport?

1394

เมื่อการเดินทางท่องเที่ยงกลายเป็นส่วนนึงของคนรุ่นใหม่ และการเดินทางไปต่างประเทศด้วยสายการบิน low cost ก็ได้รับความนิยมมากคน  และเปิดโอกาสให้คนได้เดินทางด้วยต้นทุนที่ต่ำลง

ในวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา สิงค์โปร์มีการเปิดตัว Jewel Changi Airport ห้างหรูขนาดใหญ่ใกล้กับตัวสนามบิน กลายเป็น Lifestyle destination แห่งแรกที่ผสมผสานระหว่างธรมรรมชาติ และความเป็นห้างสรรพสินค้าได้อย่างลงตัว

โดยตัวห้างมีการดีไซน์จากบริษัทออกแบบชั้นนำอย่าง Safdie Architects ซึ่งจะเห็นได้จากสวนป่าเขียวชอุ่ม Forest Valley และน้ำตก Rain Vortex อันสวยงามซึ่งเป็นไฮไลท์สำคัญของอาคารนี้ 

การลงทุนขนาดใหญ่ครั้งนี้ บ่งบอกให้เห็นถึง แนวโน้มความสำคัญของสนามบิน ซึ่งจะไม่เป้นเพียงแค่จุดสำหรับการเดินทางด้วยเครื่องบินอีกต่อไป แต่ยังรวมไปถึงการยกระดับให้สนามบินกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเสียเอง

ในประเทศไทยเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมาก็ได้มีการเปิดตัว AOT Digital platform รองการใช้งานของนักท่องเที่ยวในการใช้บริหารในสนามบินให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น ผ่าน moblie application ทั้งดารตรวจสอบข้อมูลเที่ยวบินแบบ realtime, แผนที่แสดงข้อมูลร้านค้า ร้านอาหาร พร้อมส่วนลดพิเสษ และบริการจองบริการต่างๆภายในสนามบิน รวมถึงเปิดโอกาสให้มีการสะสมคะแนนสำหรับอลกรับส่วนลดต่างๆ

นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจ central ได้เปิดตัวโครงการ “Central Village” เป็น Luxury Outlet ใกล้บริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยเนื้อที่ 40,000 ตร.ม. ประกอบด้วยร้านค้า ร้านอาหารมากมาย รวมถึงร้านค้าแบรนด์ดังระดับโลก

นี่เป็นเพียงตัวอย่างเฉพาะแค่ในภูมิภาคอาเซียนเท่านั้น แต่ในความเป็นจริง สนามบินทั่วโลกก็มีการเดินหน้าพัฒนาไปในทิศทางเดียวกันในแง่ของสบานบินจะไม่เป็นเพียงแค่ จุดขึ้นลงขาเข้าและออกจากการเดินทางอีกต่อไปแล้ว แต่สบานบินจะเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีศักยภาพมากพอที่จะทำให้นักท่องเที่ยวอยากไปเที่ยวในประเทศนั้น

5 สิ่งที่สถามบินในอนาคตต้องมี

  1.  การจัดสภาพแวดล้อมของสนามบินด้วยธรรมชาติหรือป่าจำลอง 

สนามบินเป็นจุดหนึ่งที่นับได้ว่ามีผู้คนมากมายหลั่งไหลกันเข้ามาและเป็นพื้นที่พลุกพล่านและแออัดได้ในบางช่วง ดังนั้นการให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมภายในสนาบินจริงถือได้ว่าเป็นเรื่องนึงที่สำคัญและมีส่วนช่วยทำให้สมาบินดูไม่อกอัด และหดหุ่มากจนเกินไป ทำให้หลายสถามบินมีการใส่ใจในการตกแต่งทั้งนอกและสถามบินด้วยธรรมชาติและพันธ์ไม้ชนิดต่างๆ รวมถึงการสร้างนำตกจำลอง เพิ่มความรู้สึกสดชื่นและร่มรื่นให้แก่ตัวสนามบิน

2.   การซื้อของด้วยการสัมผัสเพียงปลายนิ้ว

การซื้อสินค้าปลอดภาษีถือได้ว่าเป็นหนึ่งในความสำคัญต่อนักท่องเที่ยวและมีส่วนในสร้างประสบการณ์สำคัญจากการท่องเที่ยว แต่อนาคตภานในตัวสนามบินอาจจะไม่จำเป็นต้องมีเพียงร้านค้าเท่านั้น แต่สามารถยกทั้งห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ มาอยู่ในรูปแบบ application จุดรับสินค้าที่เปิดโอกาสให้มีการซื้อสินค้าได้จากทุกจุดของสนามบินไม่จำเป็นต้องเจ้าไปเลือกเฉพาะสินค้าที่มีในร้านเพียงเท่านั้

3.   ผู้ช่วยส่วนตัวภายในบริเวณสนามบิน

ด้วยการเข้ามาของเทคโนโลยีที่ทดแทนการใช้พนักงานบริการในสนามบินให้ลดน้อยลง แต่อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยว หรือผู้โดยสารยังคงต้องการความช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการนำทาง ข้อมูลตารางการเดินทาง และการแปลภาษา ดังนั้น visual assistant หรือผู้ช่วยส่วนตัว จึงจะเข้ามามีบทบทสำคัญ โดยมีการพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษเฉพาะเจาะจงกับการใช้งานในบริเวณสนามบิน

ตัวอย่างเช่น ” Spencer “ของ KLM หุ่นยนต์ที่รับรู้สภาพแวดล้อมภายนอกได้ และสามารถนำพาผู้โดยสารจากประตูหนึ่งไปยังอีกประตูหนึ่งเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่หลงทางในระหว่างเที่ยวบิน

4.   ระบบการเช็คอินและโหลดกระเป๋าอัตโนมัติ

ปํญหาและความวุ่นวายในสนามบินส่วนนึงมาจากเคาเตอร์เช็คอินของสายการบินต่างๆ ที่ผู้โดยสารมักจำเป็นต้องตอแทนยาวในการใช้บริการซึ่งส่งผลต่อความล่าช้า แต่ในอนาคตเคาเตอร์เช็คอินเหล่านี้จะถูกแทนที่ด้วยระบบ self check-in มากขึ้น พร้อมกับระบบโหลดกระเป๋าอัตโนมัติที่เมื่อผู้โดยสารมาถึง สามารถนำไว้ในจุดรับส่งเชื่อมต่อกับสายพานลำเลียงความเร็วสูง รวมถึงมีระบบติดตามกระเป๋าเดินทางใบนั้นๆ และส่งการเเจ้งเตือนไปยัง smart phone ได้ทันทีเมื่อกระเป๋าลูกลำเลียงขึ้นเครื่องไปเป็นที่เรียบร้อย 

5.   ด่านตรวจคนเข้าเมืองด้วยยืนยันตัวตนข้อมูลทางชีวะภาพ

เดิมทีหากนำอุปกรณ์ทางการแพทย์มาใช้เป็นสแกนเนอร์ให้มีประสิทธิภาพ ต้องมีความยาวถึง 164 ฟุต จึงจะสามารถตรวจจับสิ่งปลอมปนหรือสารเคมีอันตรายในเสื้อผ้าของผู้โดยสารหรือกระเป๋าเดินทางของพวกเขาโดยไม่จำเป็นต้องค้นหาทางกายภาพ ต่างจากสแกนเนอร์ X-ray  ที่สามารถตรวจจับวัตถุแปลกปลอมได้ในที แต่ไม่สามารถระบุตัวตนขอผู้โดยสายได้อยู่ดีทำให้ต้องมีขั้นตอนที่เป็นด่านตรวจคนเข้าเมือง

แต่การใช้ Biometric scanner จะเข้ามาช่วยในกระบวนการนี้ ทั้งการตรวจสอบสิ่งแปลกปลอมในสัมภาระผู้โดยสาร และสแกนเพื่อหาตัวระบุไบโอเมตริกซ์ ด้วยคุณลักษณะใบหน้ารูปแบบม่านตาและลายนิ้วมือเพื่อยืนยันตัวตนของพวกเขา โดยข้อมูลนี้จะถูกส่งไปให้กับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพื่อปรับปรุงกระบวนการเดินทางเข้าและออก ในด่านตรวจคนเข้าเมืองทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

แนวโน้มความสำคัญของการท่องเที่ยวในอนาคต การท่องเที่ยวจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับปลายทางที่เราต้องการ ไปอีกแล้ว แต่การท่องจะเริ่มตั้งแต่เมื่อคุณก้าวอย่างเข้าสู่สนามบินขาออก สนามบินในอนาคตจะไม่ได้มีไว้เพียงแค่สำหรับการเป็นจุดใช้บริการ การเดินทางด้วยเครื่องบินเพียงเท่านั้น แต่สถามบินจะเป็นศูนย์รวมของการให้บริการสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนก่อนออกเดินทาง ด้วยจุดบริการ และการตกแต่งสะภาพแวดล้อมด้วยธรรมชาติ เพื่อให้การท่องเที่ยวของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด

 

Reference

https://www.aph.com/community/aph-airport-of-the-future/

https://www.the-possible.com/the-future-of-airports/

https://www.the-possible.com/airport-destination-spirit-of-place/

 

บทความก่อนหน้านี้What calico does inside google? Immortality research?
บทความถัดไปGlobal ocean crisis
Avatar
นักธุรกิจ Futurist อดีตนักเรียนทุนประเทศญี่ปุ่น มีความหลงไหลในการพัฒนาธุรกิจด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ แต่ในขณะเดียวกันต้องสร้างผลในเชิงบวกให้แก่สังคม และสิ่งแวดล้อม