อนาคตของ Apple ที่ไม่ได้มาจากการขาย iPhone
หลังจากจบไปแล้วกับ Apple Special Event งานเปิดตัวสินค้าประจำปีครั้งใหญ่ของ Apple ซึ่งในปีนี้ประกอบไปด้วย iPhone 11, iPad รุ่น 10.2 นิ้ว และ Apple watch 5 นอกจากนี้ได้ประกาศรายละเอียดและค่าบริการของ 2 บริการใหม่ Apple Arcade และ Apple TV+ ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
สำหรับอุปกรณ์ใหม่ที่เปิดตัวใหม่ในงานนี้ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ได้เหนือความคาดหมายของใครหลายคน ด้วยรูปลักษณ์ Design ที่ไม่ได้มีความแตกต่างจากเดิมมากนัก
ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะในช่วงปีที่ผ่านมา Apple ได้มีการประกาศการลาออกของ 2 ผู้บริหารระดับสูงอย่าง Jony Ive หัวหน้าทีมดีไซต์เนอร์ (Cheif design officer) และ Angela Ahrendts อดีตรองประธานอาวุโสฝ่ายร้ายค้าปลีก (senior vice president of retail) ซึ่งเป็นหนึ่งในหัวเรือใหญ่ด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ และกลยุทธ์ด้านการขายของ Apple เป็นที่แน่นอนว่าการลาออกของผู้บริหารระดับสูงเช่นนี้ย่อมส่งผลต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์และทิศทางของ Apple อย่างที่เราได้เห็นเป็นสัญญาณบางอย่างจากงานครั้งนี้
Apple ก่อนหน้านี้ปฏิเสธไม่ได้ว่า Design ของผลิตภัณฑ์เป็นหนึ่งในจุดขายที่ทำให้ตัวผลิตภัณฑ์แตกต่างกับบริษัทอื่นๆ แต่ปัจจุบันจะเราจะสักเกตุได้ว่า ความสำคัญของงาน Design นั้นถูกให้ความสำคัญที่น้อยลงมาก ผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวใหม่ในช่วง 2-3 ปีให้หลังไม่ได้มีรูปแบบ Design ที่โดดเด่น แตกต่างออกไป แต่เน้นไปในทางการพัฒนาเรื่องระบบปฏิบัติการ และการเพิ่มคุณภาพของอุปกรณ์อย่าง Hardware ภายในให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น
อีกทั้งหากวิเคราะห์ในผลประกอบการของ Apple อย่างผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 มีรายรับรวม 53.8 พันล้านเหรียญ ซึ่งเพียงขึ้นเพียงแค่ 1% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันปี 2018 และกำไรปรับลดลง 7% กลับกันยอดขายของ smartphone ชูโรงอย่าง iPhone ลดลงมากถึง 30% แบบปีต่อปี
ด้วย 2 เหตุการณ์นี้เอง อาจจะเป็นสัญญาณบางอย่างให้ apple เริ่มรู้และว่าตลาดของการขายอุปกรณ์และการขยายสาขาเพิ่มขึ้นในประเทศต่างๆอาจจะไม่ใช่อนาคตของบริษัทอีกต่อไป แต่ขุดทรัพย์ใหม่ที่กำลังจะมาถึงนั้น คือ รูปแบบบริการ ที่มาพร้อมกับ Platform หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ของผู้บริโภคยุคใหม่
ทำให้สิ่งที่น่าจับตามองอนาคตของ Apple นั้นอาจจะไม่เพียงแค่การขายและพัฒนาอุปกรณ์อย่าง iPhone, IMac, iPad หรือ Apple watch อีกต่อไป แต่จะเป็นการเข้ามาเป็นหนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ของธุรกิจ platform ออนไลน์ที่ครอบคลุม ตั้งแต่ การเงิน จนถึงความบันเทิงทุกรูปแบบในอนาคต
4 บริการใหม่ รากฐานการเติบโตของ apple ในอนาคต
- Apple News+ เป็นครั้งแรกของ Apple ที่ร่วมมือกับนิยสารและหนังสือพิมพ์ชั้นนำในรูปแบบของ digital reading กว่า 300 ฉบับ อย่าง National Geographic, The New Yorker, Popular Science และ WIRED เป็นต้น ส่วนในด้านหนังสือพิมพ์ประกอบไปด้วย The Los Angeles Times และ The Wall Street Journal เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้ผู้อ่านจะจ่ายค่าสมาชิกเพียง $10 หรือ 300 บาท ต่อเดือนเท่านั้น แต่ความพิเศษของ Apple News+ ด้วยคุณสมบัติเช่น “live” ที่สร้างประสบการณ์การอ่านให้ง่ายขึ้น ด้วยการแสดงผลที่เหมาะกับขนาดของหน้าจอ และยังสามารถแนะนำหรือเรื่องที่ใกล้คล้ายๆกัน จากความสนใจของผู้อ่านได้อีกด้วย
- Apple Card เป็นบัตรเครดิตภายใต้ความร่วมมือกับบรษัทด้านการเงินการธนาคารยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Goldman Sachs ที่จะอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ให้มีประสบการณ์ใหม่ในการจ่ายเงินที่ง่ายขึ้น ซึ่งความแตกต่างจากบัตรเครดิตทั่วไป คือ “ฟรี” ค่าธรรมเนียมทั้งรายปีหรือการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ และสามารถติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าผ่านทาง iMessage ได้เลย โดยการใช้บริการสามารถใช้ได้ 2 วิธี คือ การใช้ผ่านบัตรที่ถูกออกแบบโดย Apple เองมีความเรียบหรู ทำมาจากไทเทเนียม หรือการเชื่อมต่อการใช้งานผ่าน iPhone ด้วย Apple Pay ซึ่งทุกการใช้จ่ายจะได้รับ cash back คืน 2% สำหรับการใช้จ่ายทั่วไป และ 3% เมื่อซื้อสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของ Apple นอกจากที่ทุกการทำธุรกรรมออนไลน์ผ่าน iPhone จะได้รับการยืนยันด้วย TouchID หรือ FaceID ทำให้เพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัยในการใช้จ่ายนอกจากนี้ในงาน Apple Special Event นี้เอง Apple ได้ออกมาประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมของบริการใหม่ อย่าง Apple Arcade และ Apple TV+
- Apple TV+ จากการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาด online video และ entertainment ในบริษัทอย่าง Netflix หรือ Hulu เป็นที่มาของการเปิดตัว อย่าง Apple TV+ โดยดึงผู้กำกับชั้นนำอย่าง Steven Spielberg, JJ Abrams และ Sophia Coppola มานั่งเป็นผู้ผลิต และหลังจากเปิดตัวตัวอย่างรายการใหม่บน Apple TV+ ไป 3 รายการ พบว่าได้รับผลตอบรับกลับมาที่ดีเกินคาดหมาย โดยเฉพาะ The Morning Show นอกจาดนี้ในงานวันนี้ก็มีการเปิดตัวอย่าง SEE ที่ได้ทีมสร้างจาก The Hunger Game มาเป็นหนึ่งในตัวชูโรงสำหรับสร้างเนื้อหาของ Apple Original ให้น่าสนใจยิ่งขึ้น และสามารถติดตามได้เฉพาะแค่ใน Apple TV+ เท่านั้น รวมทั้งจะมีคอนเทนท์ใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆหมวดหมู่ โดยจะเริ่มให้รับชมได้วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ และเปิดให้บริการ 100 ประเทศ ด้วยค่าบริการอยู่ที่ 4.99 ดอลลาร์หรือประมาณ 153 บาท แต่ในประเทศไทยจะราคาเพียง 99 บาทเท่านั้น รวมทั้งสำหรับลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Apple จะได้รับชม Apple TV+ ไปฟรีๆ ถึง 1 ปีเต็ม
- Apple Arcade เป็นบริการเล่นเกมแบบสมัครสมาชิก Subscription base มุ่งเน้นไปในเกมพรีเมี่ยมที่จะทำให้สมาชิกสามารถเข้าถึงเกมใหม่ได้ได้มากกว่า 100 เกม รวมถึงเกมสุด exclusive สำหรับ Apple Arcade โดยเฉพาะ สามารถเล่นผ่านอุปกรณ์ของ Apple ได้ทุกรุ่น และสามารถแชร์ให้คนในครอบครัวเล่นได้สูงสุดถึง 6 คนผ่าน Family Sharing อีกทั้งจะรวบรวมคอนเทนท์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำเกมใหม่ คลิปวิดีโอตัวอย่างเกมหรือจะเป็นคอนเทนท์แนะนำการเล่น มารวมไว้ในที่เดียว อีกทั้งในงาน Apple ยังได้นำ Game Developer ชื่อดังมาร่วมในการเปิดตัว อย่าง ค่าย KONAMI – Frogger in Toy Town, Capcom – Into the Depths และ Annapurna – Half racer มาแสดงตัวอย่างและการเล่นบนเวที Apple โดย Apple Arcade จะเริ่มให้บริการในวันที่ 19 กันยายนนี้ ใช้งานได้ 150 ประเทศ ค่าบริการอยู่ที่เดือนละ 4.99 ดอลลาร์ หรือประมาณ 153 บาท แต่สำหรับในประเทศไทยจะราคาเพียง 99 บาทต่อเดือน และเปิดให้สามารถทดลองใช้บริการเดือนแรกได้ฟรี
ด้วยมูลค่าและการเติบโตของตลาด platform ออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นตลาดนิตยสาร และหนังสือพิมพ์ดิจิตอล มูลค่า 150,000 ล้านเหรียญ ,ตลาดบัตรเครดิตและธุรกรรมออนไลน์ มูลค่า 250,000 ล้านเหรียญ, ตลาดวิดีโอและบันเทิงแบบ streaming มูลค่า 36,000 ล้านเหรียญ และตลาดเกมออนไลน์ streamingในมือถือ มูลค่า 70,000 ล้านเหรียญ โดยทั้งหมดมีขนาดมากกว่า 500,000 ล้านเหรียญ และหากประเมินเปรียบเทียบกับฐานอุปกรณ์ของ apple อยู่มากถึง 1.5 พันล้านเครื่อง นั้นทำให้ในแต่ละบริการมี potential customer อยู่รวมมูลค่าสูงสุดมากถึง 7.5 พันล้านเหรียญ ต่อหนึ่งบริการ
ทำให้ การจัดทัพด้วยบริการออนไลน์รูปแบบใหม่ๆครั้งนี้ของ Apple ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในก้าวที่เปลี่ยนแปลงสำคัญ เพราะนี่อาจจะเป็นขุมทรัพย์ชิ้นใหม่ที่บริษัทที่นอกเหนือจากการพัฒนาอุปกรณ์ device ในรูปแบบใหม่ๆ และบริการออนไลน์ยังอาศัยต้นทุนด้านการจัดการและการพัฒนาที่น้อยกว่าอุปกรณ์เป็นอย่างมาก ต้องมาติดตามกันต่อไปว่าผลตอบรับในบริหารใหม่ของ Apple เป็นอย่างไรกันบ้าง และทิศทางในอนาคตของบริษัทจะเดินต่อไปในทิศทางไหน
Reference
https://www.idownloadblog.com/2019/07/30/apple-q3-2019-earnings-report/
https://9to5mac.com/2019/04/30/iphone-sales-drop/
https://www.wired.com/story/everything-apple-announced-march-25-apple-event-news-tv-card/
https://www.apple.com/apple-arcade/
https://www.apple.com/apple-tv-plus/
https://www.cultofmac.com/642668/iphone-sales-apple-installed-base-ipad-mac-2019/
